by ลมหนาวใกล้เข้ามาแล้ว…ออกไปเที่ยวกันเถอะ.. สำหรับทริปนี้เราไปเที่ยวเชียงใหม่ทั้งหมด 5 วัน 4 คืน เที่ยวแบบครบรสมาก ทั้งไหว้พระ ขึ้นดอย หาของอร่อยๆ กิน พาไปใกล้ชิดธรรมชาติ รวมไปถึงพาช็อปปิ้งสินค้าพื้นเมือง บอกเลยว่าแต่ละจุดเช้คอินที่เราคัดสรรมานั้นเด็ดๆ ทั้งนั้น ไปเชียงใหม่ ห้ามพลาด !!
สำหรับการเดินทางของเราในทริปนี้เราเลือกบินตรงไปลงเชียงใหม่ กับ แอร์เอเชีย สายการบินราคาดี บริการเด็ด โดยใช้เวลาในการเดินทาง 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็พร้อมไปแอ่วเหนือกันแล้วเจ้าาาา…
เมื่อถึงสนามบินเชียงใหม่เรียบร้อย เราก็เลือกไปใช้บริการรถเช่าที่ Avis Thailand เนื่องจากทริปนี้เราเที่ยวทั้งในตัวเมืองเชียงใหม่และขึ้นดอย ไปไร่ชา อะไรต่างๆมากมาย จึงคิดว่าการเช่ารถขับเองน่าจะตอบโจทย์การท่องเที่ยวของเราได้ดีที่สุด และที่สำคัญ Avis Thailand มีบริการที่หลากหลายมาก หากใครไม่อยากเช่ารถขับเอง ก็สามารถใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับได้ด้วย สะดวกมากสบายมาก และไม่ต้องห่วงเลยเพราะเขามีบริการครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด 29 สาขาทั่วประเทศ
1.วัดเจ็ดยอด (วัดโพธารามมหาวิหาร)
เริ่มทริปด้วยการเสริมสิริมงคลด้วยการแวะไหว้พระที่วัดเจ็ดยอด ที่นี่เป็นพระอารามหลวง มีโบราณสถานที่เก่าแก่และมีความสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทย
2.วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร มีความสูงจากระดับที่ราบเชียงใหม่ราว 689 เมตร และมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,046 เมตร เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ไม่ควรพลาดที่จะมาสักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตค่ะ
3.ม่อนแจ่ม
ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึงม่อนแจ่มแล้วค่ะ
แนะนำว่าให้เดินทางมาเที่ยวในช่วงกลางเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ จะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบฟินๆ แต่จริงๆ เที่ยวปลายฝนต้นหนาวก็ไม่เลวเลยนะคะ
4.ทุ่งเวอร์บีน่า ไร่ดอกลมหนาว ม่อนแจ่ม
ไร่ดอกลมหนาว เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ต้องมา เพราะหากมาช่วงฤดูฝน หรือปลายฝนต้นหยาว จะมีดอกเวอร์บีน่าสีสันน่ารักสุดๆ ให้เราได้ชม และถ่ายรูปสวยๆ แบบนี้เลย พร้อมชมวิวทิวเขาสลับซับซ้อนที่มีความสวยงามมาก ยิ่งมาช่วงเย็นๆ จะได้เห็นแสงพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าตัดกับสีก้อนเมฆ คือสวยมาก
5.ภูดอย โฮมสเตย์
คืนแรกเราพักที่ภูดอยโฮมสเตย์ ซึ่งมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บรรยากาศดีมาก ช่วงเย็นคือหนาว ส่วนช่วงเช้าไม่ต้องพูดถึงอากาศดีมากประมาณ 18 องศา และที่นี่ยังมีที่พักให้เลือกทั้งแบบเต้นท์กระโจม หรือ แบบบ้านกล่องไม้ จะแบบไหนก็เก๋ทั้งคู่เลย แต่ทริปนี้เราพักแบบบ้านกล่องไม้ค่ะ เพราะเต้นท์กระโจมเต็ม แนะนำใครจะไปพัก จองล่วงหน้านะเจ้าาา..
ช่วงเย็นๆ เราก็ไม่พลาดที่จะสั่งหมูกระทะมากินท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายแบบนี้ สามารถสั่งหมูกระทะที่ที่พักได้เลยค่ะ มีบริการอยู่ สามารถแจ้งเวลาที่ให้มาส่งได้ด้วย ราคาชุดละ 450 บาทค่ะ กิน 2 คน คือ อิ่ม รวมไปถึงอาหารตามสั่งก็มีบริการนะคะ
อากาศแบบนี้ใครมาม่อนแจ่ม ไม่กินหมูกระทะบนม่อนแจ่ม คือ ผิด เพราะมันอร่อยกว่าการกินหมูกระทะปกติ ไม่รู้ทำไม อาจจะเพราะบรรยากาศมั้ง ต้องไปลองเอง แล้วจะรู้ ….
6.Pongyang Jungle Coaster & Zipline
ใครเป็นสายที่ชื่นชอบความท้าทาย ที่นี่มีเครื่องเล่นเยอะแยะมากมายแนวแอดเวนเจอร์ ซึ่งที่นี่มีที่พักด้วย ตั้งอยู่ อ.แม่ริม จะแวะก่อนขึ้นไปม่อนแจ่ม หรือขากลับก็ผ่านค่ะ
7.โป่งแยงแอ่งดอย
ระหว่างทางเราเจอโป่งแยงแอ่งดอย ซึ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ มีร้านอาหาร และมีของขายด้วยเป็นของพื้นเมือง ใครหาของฝากที่นี่ก็มีนะคะ เราจึงแวะหาอะไรเย็นๆ สดชื่นๆ กินสักหน่อย ….. แต่ของแถมที่ได้คือ มีสวนมุมนั่งเล่น ริมลำธารแบบนี้คือดีมาก
8.ร้านทับริมธาร
ร้านทับริมธาร เป็นร้านอาหารริมธารแบบนี้ อยู่ไม่ห่างจากโป่งแยงแอ่งดอยค่ะ มีมุมให้เลือกนั่งหลากหลาย ทั้งโต๊ะริมธาร หรือโต๊ะแบบนั่งพื้นริมธาร คือบรรยากาศดีมาก และไก่ย่างอร่อยดีนะ 555 หอมสมุนไพร นุ่ม อิ่มเอมใจมากๆ ได้กินข้าวริมธารแบบนี้ แฮปปี้ : )
9.โรงแรม Flora Creek Chiangmai
คืนที่ 2 -3 เราเลือกพักที่ Flora Creek เนื่องจากอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมาก แต่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการรีชาต์จตัวเองให้ได้สูดโอโซนแบบเต็มที่ พร้อมได้พักผ่อนแบบพักผ่อนจริงๆ ไม่ต้องออกไปเที่ยวไหนเลย เพราะในโรงแรมมีทั้ง ร้านอาหาร ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนดอกไม้สวยๆ ให้ได้ถ่ายรูปเพลินๆ ครบค่ะ
อ่านรีวิวโรงแรมเพิ่มเติม :: https://www.ajourneythailand.com/2019/10/20/flora-creek-chiangmai/
10.Creek Cafe
ห้องอาหาร Creek Cafe ตั้งอยู่ในโรงแรม Flora Creek ค่ะ แต่ใครที่ไม่เข้าพักที่โรงแรมก็สามารถเข้ามารับประทานอาหารได้เหมือนกันที่นี่มีทั้งอาหารคาว หวาน หลากหลายสไตล์ อร่อยด้วย คอนเฟริม …
11.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย โครงการหลวงบ้านขุนแปะ
สถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่า เป็นการทุ่งดอกไฮเดรนเยียที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ดอกไฮเดรนเยีย จะเริ่มบานตั้งแต่เดือนตุลาคม และบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สาวๆ ห้ามพลาด สวยแบบนี้ไม่ต้องไปถ่ายต่างประเทศแล้ว ของไทยเราก็สวยกว่าเยอะ
อ่านรีวิวเพิ่มเติม :: https://www.ajourneythailand.com/2019/10/13/hydrangea-farm-chiangmai-thailand/
12.นาขั้นบันได บ้านขุนแปะ
ที่บ้านขุนแปะ ยังมีอีกจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาด คือ ทุ่งนาขั้นบันได จะได้เห็นแปลงนาเขียวจัดตัดกับท้องฟ้าสีคราม แบบนี้ ที่นี่มีโฮมสเตย์ให้พักด้วยนะคะ เผื่อใครอยากมาพักท่ามกลางบรรยากาศทุ่งนาแบบนี้ บางคนก็เตรียมเต้นท์มาเอง จะมีจุดกางเต้นท์บริการอยู่ สามารถสอบถามได้ที่โครงการหลวงบ้านขุนแปะเลยค่ะ
13.กู โรตีและชาชัก (Guu Fusion Roti & Tea)
ร้านยอดฮิตที่ใครมาเชียงใหม่ไม่พลาด ก็คือ กูโรตี ตั้งอยู่ที่ นิมมานซอย 3 อยู่ใกล้ๆกับ One Nimman เลยค่ะ และที่นี่ไม่ได้มีแค่โรตี กับชา เท่านั้น ยังมีอาหารสไตล์ฟิวชั่นให้รับประทานด้วย เราสั่งตูมตามชีสมา คืออร่อยฟิน มีนมรีฟิวด้วยนะ ใครไม่กลัวอ้อวนเติมได้ไม่อั้น 5555
14.ไก่ทอดเที่ยงคืน
อยากกินมานาน ได้กินสักที 5555 แนะนำใครที่จะไปกินให้กินที่ร้านฟินกว่ามากค่ะ เพราะเราซื้อกลับไปกินที่โรงแรมจึงไม่ฟินเท่าที่ควร แต่รสชาติคือดี หมูสามชั้นทอดคือทอดได้แห้งกรอบมาก ร้านเปิดตั้งแต่ 21.00 น. – 05.00 น.
15.ไร่ชาลุงเดช
จะบอกว่ามาที่นี่แล้วหลงรักจริงๆ อยากไปอีกเลยอ่ะ แต่คุณลุงเดชแนะนำให้มาช่วงกลางตุลาคมเป็นต้นไป เพราะได้สัมผัสอากาศหนาวและหมอกยามเช้ายาวไปจนถึง 11 โมงเลย ไว้จะมาใหม่อีกแน่นอน
16.บ้านข้างวัด
ชุมชนสำหรับคนฮิปๆ ห้ามพลาด แหล่งช็อปปิ้งสไตล์แฮนเมด งานศิลปะหลากหลายแขนงถูกรวบรวมไว้ที่บ้านข้างวัดแห่งนี้ ส่วนตัวแล้วชอบมาก มีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะ และที่สำคัญมีของเก๋ๆให้ช็อปปิ้งเพียบ บางชิ้นมีเพียง 1 เดียวในโลก ที่สำคัญที่นี่เขาส่งเสริมให้ไม่ใช่พลาสติกนะคะ คือชอบมากๆ
17.Transit Number 8
คาเฟ่สุดฮิต เปิดได้ไม่นาน แต่คนเยอะมาก คาเฟ่สไตล์คลีนๆ สุดฮิตสุดฮอตของชาวเชียงใหม่ รวมไปถึงนักท่องเที่ยว ตกแต่งร้านได้เก๋ ชิค มินิมอลมาก ไอศกรีม Soft Serve อร่อยดี ราคาแค่ 39 บาท กาแฟดี หอม ละมุน มุมถ่ายรูปสวย
18.ถนนคนเดินประตูท่าแพ
ถนนคนเดินที่ดังและใหญ่ที่สุด เราจึงไม่พลาด ที่ตลาดแห่งนี้เป็นที่นิยมมากๆ ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะมีสินค้าพื้นเมืองวางจำหน่ายเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งของใช้ ของฝาก ของกินเพียบ แต่มีเฉพาะวันอาทิตย์นะคะ เปิด เวลาประมาณ 17.00 – 22.00 น.
จุดนี้ห้ามพลาด แวะมาแชะรูปที่ประตูท่าแพ ใครอยากได้ภาพสวยๆ แนะนำตอนกลางวันค่ะ .
สำหรับทริปนี้ก็จบไปแล้วนะคะ กับ 18 จุดเช็คอินในเชียงใหม่ จริงๆแล้วเชียงใหม่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกเยอะแยะมากมาย ไว้เราจะไปใหม่แล้วมาอัพเดตนะคะ ฝากติดตาม Vdo ทริปเที่ยวเชียงใหม่ของพวกเราด้วยนะคะ : )
